ยุคนี้เครื่องมือ AI กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนทำงานสายครีเอทีฟ ไม่ว่าจะเป็นงานคอนเทนต์ ดีไซน์ หรือวิดีโอ เพราะมี AI ช่วยทำให้ทุกขั้นตอนง่ายและเร็วขึ้นมาก แต่หลายคนอาจจะยังไม่แน่ใจว่า AI ในการทำงานมีอะไรบ้าง และจะเลือกใช้ยังไงให้เหมาะกับงานของตัวเองดี บทความนี้ได้รวบรวมเครื่องมือ AI ที่ตอบโจทย์สายครีเอทีฟไว้ครบ ตั้งแต่การคิดงานไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย จะมีทั้ง แอป AI ฟรี และแบบเสียเงินให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม ถ้าพร้อมจะใช้งานกันแล้ว ต้องอ่านบทความนี้เลย

เครื่องมือ AI คู่คิดสาย Content ช่วยปลดล็อกไอเดีย

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่างานคอนเทนต์ถือเป็นหัวใจสำคัญของทุกแบรนด์และทุกแคมเปญ แต่ก็เป็นงานที่ใช้เวลามากที่สุด ทั้งการระดมสมองหาไอเดีย ร่างโครงเรื่อง หรือแม้กระทั่งการตรวจทานคำผิด การใช้ AI ในการทำงาน ด้านนี้จึงช่วยลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมหาศาล

• ChatGPT : เครื่องมือ AI ที่นักเขียนและนักการตลาดขาดไม่ได้ เพราะความสามารถในการ Brainstorm ไอเดียหรือร่างโครงเรื่อง SEO ได้ภายในไม่กี่นาที ทำให้การเริ่มต้นสร้างสรรค์คอนเทนต์เป็นเรื่องที่ง่ายกว่าที่คิด โดยมีเครื่องมือ AI ช่วยคิดคอนเทนต์นี้มีราคาค่าใช้จ่ายคือแบบฟรีและ Plus $20
• Gemini : สำหรับใครที่ทำงานในระบบ Google Workspace บ่อยๆ ทำให้เครื่องมือ AI อย่าง Gemini คือเพื่อนคู่คิดที่ขาดไม่ได้ เพราะมันสามารถทำงานร่วมกับ Docs หรือ Gmail ได้อย่างราบรื่น ช่วยให้คุณเขียนงาน สรุปข้อมูล หรือร่างอีเมลได้โดยไม่ต้องสลับแอปให้เสียเวลา โดยมีราคาคือแบบฟรีและ Premium $19.99
• Claude : หากงานของคุณต้องอ่านไฟล์เอกสารยาวๆ ไม่ว่าจะเป็น Brief ลูกค้า หรือรายงานการตลาดหนาหลายสิบหน้า ดังนั้น Claude คือเครื่องมือ AI ช่วยคิดคอนเทนต์ ที่จะช่วยคุณสรุปข้อมูลเหล่านั้นให้กลายเป็น Bullet Point ที่เข้าใจง่าย ทำให้การวางแผนงานเร็วขึ้นทันตา โดยมีราคาคือแบบฟรีและ Pro $20
• Notion AI : สำหรับทีมที่มีการประชุมยาวนาน แอป AI อย่าง Notion AI จะช่วยสรุปประเด็นสำคัญและทำเป็น Memo ให้ทีมเข้าใจตรงกันได้รวดเร็ว ช่วยให้การทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีราคาคือ $8/1 ผู้ใช้งาน
• Jasper : หากเป้าหมายคือการเขียน Copy โฆษณา Caption ที่ดึงดูด หรือ Email Marketing ที่เปลี่ยนคนอ่านให้เป็นลูกค้า Jasper จึงคือ AI ในการทำงาน ที่จะสร้างสรรค์ข้อความได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่าเชื่อถือเหมือนมีนักเขียนมืออาชีพอยู่ในทีมโดยมีราคาคือเริ่มต้น $39
• copy.ai : ในวันที่คุณต้องการคอนเทนต์สั้นๆ จำนวนมาก เช่น คำโปรยสินค้า หรือ Headline ที่มีหลายเวอร์ชันสำหรับ A/B Testing, Copy.ai คือเครื่องมือ AI ที่ตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้ในคลิกเดียว โดยมีราคาคือแบบฟรีและเริ่มต้น $36-49
• AI-Writer : หลังจากเขียนงานเสร็จ เครื่องมือ AI นี้จะช่วยตรวจแกรมมาร์และปรับโทนภาษาให้ลื่นไหลและอ่านง่าย ทำให้คุณสามารถส่งงานให้ลูกค้าได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องแก้เยอะ โดยมีราคาคือเริ่มต้น $18

จะเห็นว่า เครื่องมือ AI ช่วยคิดคอนเทนต์ ไม่ได้มาแทนคน แต่ช่วยให้การทำงานสาย Content ราบรื่นกว่าเดิม ทั้งการคิด เขียน และตรวจงานจบครบในที่เดียว

รวมเครื่องมือ AI ผู้ช่วยออกแบบ Designer งานไว ไอเดียไหล!

งานดีไซน์ต้องอาศัยทั้งความคิดสร้างสรรค์และความเร็ว การใช้ AI ในการทำงานจะช่วยให้งานลื่นไหลกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นนักออกแบบมือใหม่หรือมืออาชีพ หลายคนอาจมีคำถามว่า เครื่องมือ AI มีอะไรบ้าง สำหรับงานดีไซน์? คำตอบคือมีครบทั้งสร้าง แก้ไข และต่อยอดไอเดีย ดังนี้

• Adobe Firefly : สำหรับนักออกแบบมืออาชีพที่ต้องการคุณภาพงานสูง Adobe Firefly ช่วยให้คุณสร้างหรือแก้ไขภาพด้วยข้อความได้อย่างแม่นยำ โดยมีราคาที่รวมใน Adobe Plan $4.99-$19.99
• Canva Magic Design : เครื่องมือ AI ช่วยสร้างรูปภาพ และเทมเพลตสวยๆ ได้ง่ายๆ แค่ใส่ไอเดียลงไป เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักการตลาดหรือสายคอนเทนต์ที่ต้องทำโพสต์เร็วๆ โดยมีราคาแบบฟรี และ Pro $14.99
• Microsoft Designer : คือเครื่องมือ AI ที่ช่วยออกแบบโพสต์ แบนเนอร์ และโฆษณาออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับธุรกิจ SME หรือคนที่เพิ่งเริ่มสร้างแบรนด์ของตัวเอง โดยมีราคาแบบฟรี และ Pro $10 หรือรวมใน M365
• Kittl : หากคุณต้องการทำโลโก้และฟอนต์ที่ดูเป็นมืออาชีพ Kittl คือเครื่องมือ AI ที่ตอบโจทย์ เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือคนที่สร้างแบรนด์ด้วยตัวเอง โดยมีราคาแบบ ฟรี และ Pro $10
• Khroma : คือ AI ช่วยทำงาน ด้านการเลือกคู่สีที่แมตช์กันได้อย่างลงตัว สำหรับสาย UX/UI ที่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องสีโดยเฉพาะจะเหมาะมากๆ กับเครื่องมือ AI นี้ สามารถใช้งานฟรี
• Gemini : แม้จะเป็นเครื่องมือ AI ที่ไม่ได้ออกแบบภาพโดยตรง แต่ Gemini จะช่วยหาแรงบันดาลใจและต่อยอดไอเดียใหม่ๆ สำหรับงานออกแบบให้คุณ โดยมีราคาแบบฟรี และ Premium $19.99
• ChatGPT : สำหรับงานดีไซน์ที่ต้องมีคำคมโดนๆ เครื่องมือ AI ChatGPT สามารถช่วยคิดคอนเซ็ปต์ หรือสโลแกนให้งานของคุณดูครบวงจรมากขึ้น โดยมีราคาแบบฟรี และ Plus $20

เครื่องมือ AI ช่วยทำงานด้านดีไซน์ มีทั้งสร้างภาพ แก้ไขงานเก่า และต่อยอดไอเดียใหม่ ๆ ทำให้นักออกแบบทำงานไวขึ้นและได้งานคุณภาพมากขึ้น

เครื่องมือ AI ที่เป็นเพื่อนคู่ใจสายตัดต่อ งานเป๊ะ ประหยัดเวลาขึ้น

การผลิตวิดีโอเคยเป็นงานที่ต้องใช้ทีมใหญ่ แต่ปัจจุบันโปรแกรมสร้างวิดีโอ AI ทำให้ครีเอเตอร์และนักการตลาดทำวิดีโอคุณภาพได้เองง่ายๆ และรวดเร็ว ช่วยลดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย เช่น

• Opus Clip : เครื่องมือ AI ใช้ตัดต่อคลิปยาวให้กลายเป็น Shorts อัตโนมัติ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ TikToker และ YouTuber ที่ต้องผลิตคอนเทนต์จำนวนมาก โดยมีราคาแบบฟรีและพรีเมียม
• CapCut AI : เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือ AI ตัดต่อที่ครบจบในแอปพลิเคชันเดียว เพราะสามารถทำได้ทั้งตัด ใส่ซับไตเติ้ล หรือเอฟเฟกต์ เลยเป็นแอป AI ที่ใช้ง่าย เหมาะสำหรับ Vlogger หรือคนที่ต้องการความเร็วในการทำงาน โดยมีราคาแบบฟรีและพรีเมียม
• Runway ML : ถ้าอยากได้เครื่องมือ AI ที่ช่วยสร้างวิดีโอจากข้อความหรือภาพ และยังสามารถช่วยตัดต่อฉากได้สะดวก เหมาะสำหรับสายโปรดิวเซอร์ที่ต้องการสร้างสรรค์งานใหม่ๆ โดยมีราคาแบบฟรี และเริ่มต้น $15+
• Pika Labs : เครื่องมือ AI ที่สร้างวิดีโอสุดเจ๋งจากข้อความได้อย่างน่าทึ่ง เหมาะสำหรับสายครีเอทีฟที่ต้องการสร้างงานแฟนตาซีที่ไม่เหมือนใคร โดยมีราคาแบบชำระเงินตามโปรเจกต์
• HeyGen : เครื่องมือ AI ที่ช่วยสร้างวิดีโอ Avatar สำหรับพรีเซนต์งาน โดยไม่ต้องใช้สตูดิโอ เหมาะกับฝ่าย HR และพรีเซนเตอร์ออนไลน์ โดยมีราคาเริ่มต้น $30+
• Synthesia : โปรแกรมสร้างวิดีโอ AI ที่ช่วยสร้างวิดีโอพรีเซนต์แบบมืออาชีพด้วย AI เสมือนจริง เหมาะกับฝ่ายสื่อสารองค์กร โดยมีราคาเริ่มต้น $30+
• D-ID : ถ้าต้องการเปลี่ยนภาพนิ่งให้พูดได้ จึงเหมาะสำหรับครีเอทีฟหรือทีมงานโฆษณาที่ต้องการสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ โดยมีราคาแบบฟรี และเริ่มต้น $19+
• Vidnoz : เครื่องมือ AI ช่วยทำงาน ด้านการสร้างวิดีโอ Avatar เหมาะสำหรับ Content Creator และฝ่าย Marketing โดยมีราคาแบบเริ่มต้น $20+

โปรแกรมสร้างวิดีโอ AI และ AI ตัดต่อ ช่วยลดเวลา เพิ่มความสะดวก และทำให้งานวิดีโอคุณภาพสูงได้โดยไม่ต้องพึ่งทีมใหญ่

เครื่องมือ AI เสริมทัพสาย PodCast ตัดเสียงเนียน อัดเสียงง่าย

คอนเทนต์เสียงกำลังมาแรงมาก เพราะไม่ว่าจะทำอะไรหรืออยู่ที่ไหนก็สามารถเสพคอนเทนต์ได้ แต่รู้ไหมว่าก็มีเครื่องมือ AI ช่วยทำงาน ที่ทำให้เสียงชัดใสโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์แพงๆ เหมาะกับทั้งพอดแคสเตอร์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ต้องการสร้างงานเสียงคุณภาพสูง เช่น

• Descript : เครื่องมือ AI ที่ช่วยให้ตัดต่อเสียงและวิดีโอง่ายเหมือนแก้ไฟล์ Word เหมาะสำหรับพอดแคสเตอร์มือใหม่ หรือคนที่ต้องการความง่ายในการทำงาน โดยมีราคาแบบเริ่มต้น $12+
• Krisp : ถือเป็นเครื่องมือ Audio AI ช่วยตัดเสียงรบกวนแบบเรียลไทม์ ทำให้เสียงพูดคมชัดทุกสถานการณ์ เหมาะสำหรับนักพูด, Streamer, หรือคนที่ต้องอัดเสียงในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน โดยมีราคาแบบฟรี และเริ่มต้น $5+
• Cleanvoice AI : ถือเป็นเครื่องมือ AI ตัดเสียงรบกวนที่ลบเสียงฟุ้งและเสียงรอบข้าง เหลือแค่เสียงพูดใสเหมือนอัดในสตูดิโอ เหมาะกับงานสัมภาษณ์หรือการบันทึกเสียงที่ต้องการความคมชัดเป็นพิเศษ โดยมีราคาแบบเริ่มต้น $15+
• ElevenLabs : ถ้าอยากสร้างเสียงพากย์เสมือนจริง ทั้งโทนเสียงและจังหวะการพูดที่เหมือนมนุษย์ เหมาะสำหรับนักพากย์ ทีมผลิตโฆษณา หรือคนที่ต้องการเสียงอ่านแบบธรรมชาติ โดยมีราคาแบบฟรี และเริ่มต้นที่ $5-$20
• Podcastle : เป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยสายทำคอนเทนต์​ Podcast แบบครบวงจรทั้งอัด ตัด และใส่เสียงพากย์ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำงานให้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องใช้หลายแอปฯ โดยมีราคาแบบฟรี และเริ่มต้นที่ $11+

แค่เลือกใช้ เครื่องมือ AI ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนให้เหมาะสมกับตัวเอง ก็สามารถสร้างพอดแคสต์คุณภาพสูงได้เองที่บ้าน

สายครีเอทีฟห้ามพลาด! จ่ายค่า AI รายเดือน ด้วยบัตรเครดิตอิออน

สำหรับชาวครีเอทีฟที่ต้องจ่ายค่าสมาชิก เครื่องมือ AI เป็นรายเดือน ไม่ว่าจะเป็น ChatGPT, Adobe Firefly, หรือ Opus Clip เพื่อให้งานเสร็จไวขึ้น รู้หรือไม่ว่าคุณสามารถทำให้ทุกยอดใช้จ่ายคุ้มค่ายิ่งกว่าเดิมได้

แล้วเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอิออน* คุณจะได้รับ AEON Happy Point* กลับคืนทันทีทุกยอดที่ใช้จ่าย ไม่ว่าจะสมัคร AI ช่วยทำงานตัวไหนก็ตาม เท่ากับว่าทุกการลงทุนกับเครื่องมือที่ช่วยให้งานของคุณดีขึ้น คุณก็จะได้รับผลตอบแทนกลับคืนมาด้วย

ดังนั้น การใช้บัตรเครดิตอิออน* จึงไม่ใช่แค่การจ่ายเงิน แต่เป็นการลงทุนที่ชาญฉลาด เพราะนอกจากจะได้งานที่เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ยังช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างมีสติและได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมอีกด้วย

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี