แนะแนววิธีการจัดการ สาระน่ารู้หรือเคล็ดลับดีๆในการใช้บัตรเครดิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงหลายๆเรื่องที่คุณไม่รู้มาก่อน มาอัพเดทกันก่อนใคร ที่นี่ ..
ทุกเรื่องบัตรเครดิตที่คุณควรรู้
การเลือกประกันรถยนต์ไม่ใช่แค่ดูราคาถูกหรือแพง แต่ "นิสัยการขับขี่" ที่บอกได้ว่าแบบไหนเหมาะที่สุด เพราะคนที่ขับรถทุกวันย่อมมีความเสี่ยงต่างจากคนที่ใช้รถแค่เสาร์-อาทิตย์ หรือคนที่ขับรถในเมืองก็ต้องการความคุ้มครองต่างจากคนที่ขับทางไกล หากคุณกำลังสงสัยว่า ควรเลือกประกันรถยนต์แบบไหนดีให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง บทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้น
เวลาที่เลือกซื้อประกันรถ หลายคนมักให้ความสำคัญกับการค้นหาแค่ว่า “ประกันรถยนต์ บริษัทไหนดี” “ประกันรถยนต์เจ้าไหนดี” หรือเปรียบเทียบเบี้ยประกันรถยนต์ว่าที่ไหนถูกที่สุด แต่สิ่งหนึ่งที่ควรถูกนำไปตัดสินใจควบคู่กันด้วยคือ “นิสัยการขับขี่” เนื่องจากพฤติกรรมการใช้รถของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงส่งผลโดยตรงไปยังประเภทของประกันรถยนต์ที่ควรเลือกใช้ เช่น
เพราะฉะนั้น เมื่อเลือกซื้อประกันรถยนต์ให้ตรงกับนิสัยการขับขี่ จึงช่วยให้
ดังนั้น ก่อนจะเลือกประกันรถยนต์แบบไหน ลองเช็กนิสัยการขับขี่ของคุณให้ชัดก่อนว่า “มีนิสัยการขับแบบไหน?” เพื่อจะได้เลือกแบบประกันที่คุ้มค่าที่สุด
พฤติกรรมการใช้รถ เช่น ขับบ่อย ขับน้อย ขับลุย หรือจอดมากกว่าขับ เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าประเภทของประกันรถยนต์ที่ควรเลือกควรเป็นแบบไหน เพื่อให้คุณไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินความจำเป็น แต่ยังได้ความคุ้มครองที่ตรงกับความเสี่ยงของตัวเองโดยตัวอย่างต่อไปนี้คือประเภทพฤติกรรมการใช้รถที่พบได้บ่อยๆพร้อมแนะนำประกันรถยนต์จาก ไทยไพบูลย์ประกันภัย (TPB)* และ MSIG ประกันภัยที่เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้รถที่สามารถซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ กับ AEON
ถ้าคุณใช้รถเก่าที่อายุเกิน 10 ปี เช่น รถบ้าน รถมือสอง หรือรถที่ไม่ได้มีมูลค่าซ่อมสูง ใช้ขับเฉพาะบางโอกาสในวันหยุด หรือแค่ขับรถระยะใกล้บ้าน การเลือกประกันรถยนต์ชั้น 3 คือแผนที่เหมาะเพราะให้ความคุ้มครองเฉพาะความเสียหายที่ “อาจสร้างภาระใหญ่” เช่น ความเสียหายต่อคู่กรณี ชีวิตและทรัพย์สินบุคคลภายนอก แต่จะไม่คุ้มครองรถของคุณเอง เหมาะกับ
ตัวอย่างรุ่นรถยนต์ : Isuzu D-Max 2.5 SPACE CAB ปี 2010*
ตัวอย่างประกันรถที่แนะนำ : ประกันรถชั้น 3 จากบริษัท ไทยไพบูลย์ประกันภัย*
สำหรับคนที่ใช้รถแทบทุกวันโดยเฉพาะเดินทางไกลบ่อยๆ เช่น ขับรถต่างจังหวัดเพราะทำงาน ฯลฯ ทำให้มีความเสี่ยงที่เจอคือ รถชน, รถหาย, รถไฟไหม้ ซึ่งประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองในกรณีเหล่านี้ได้ดี แต่ไม่รวมความเสียหายจากรถลื่นไถลเองหรือล้มเอง เหมาะกับ
ตัวอย่างรุ่นรถยนต์ : D-Max 1.9 Ddi ปี 2018*
ตัวอย่างประกันรถที่แนะนำ : ประกันรถชั้น 2+ จากบริษัท ไทยไพบูลย์ประกันภัย*
คนที่อยู่บ้านเป็นหลัก นานๆ ใช้รถ เช่น แค่เสาร์อาทิตย์ หรือขับเฉพาะบางช่วงเวลา จึงไม่ค่อยมีโอกาสเจออุบัติเหตุหนัก ซึ่ง ประกันรถยนต์ชั้น 3+ เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะจะเพิ่มความคุ้มครอง “รถชนรถ” (ที่ประกันรถชั้น 3 ไม่มี) แต่ไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันสูงเท่าประกันชั้น 1 เหมาะกับ
ตัวอย่างรุ่นรถยนต์ : Toyota Yaris Ativ ปี 2021*
ตัวอย่างประกันที่แนะนำ : ประกันรถชั้น 3+ จากบริษัท ไทยไพบูลย์ประกันภัย*
แม้จะไม่ได้ขับบ่อยมากนัก แต่ก็อยากอุ่นใจไว้ โดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางไกลบางครั้ง หรือกังวลเรื่องขับรถชนแบบไม่ตั้งใจ ทำให้ประกันรถยนต์ชั้น 3+ คือคำตอบเพราะประกันรถยนต์บางเจ้า เช่น MSIG ก็มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน จึงเหมาะกับสายชิลที่อยาก “พร้อม” ตลอดเวลา แม้จะขับน้อย แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์จริง ก็มีทีมมาช่วยเหลือได้ทันที เหมาะกับ
ตัวอย่างรุ่นรถยนต์ : Toyota Yaris Ativ ปี 2022*
ตัวอย่างประกันที่แนะนำ : ประกันรถชั้น 3+ จากบริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย*
สำหรับคนที่ใช้รถประจำทุกวัน โดยเฉพาะขับรถในเมืองที่มีความเสี่ยงต่อทั้งอุบัติเหตุเล็กน้อย รถหาย หรือแม้แต่น้ำท่วมในบางพื้นที่ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คือตัวเลือกที่ดี แม้จะต้องจ่ายเบี้ยประกันรถที่แพงขึ้นแต่ “ครอบคลุมครบจบ” ช่วยให้ไม่ต้องกังวลเวลาขับรถ และไม่ต้องลุ้นเวลาซ่อม เหมาะกับ
ตัวอย่างรุ่นรถยนต์ : Honda City Hatchback ปี 2023*
ตัวอย่างประกันที่แนะนำ : ประกันรถชั้น 2+ จากบริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย*
สรุปได้ว่า จะขับรถสไตล์ไหน มีนิสัยการขับรถอย่างไร ก็สามารถเลือกซื้อประกันรถยนต์ ออนไลน์ ได้ที่ AEON THAI MOBILE App
สำหรับประเทศไทยมีประกันรถยนต์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเลือกใช้ด้วยกัน 2 ประเภท คือ (1) ประกันรถยนต์ภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ.รถยนต์ ที่กฎหมายบังคับให้รถยนต์ทุกคันต้องมี และ ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ เช่น ประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และประกันรถยนต์ชั้น 3+ เป็นความคุ้มครองเสริมที่เพิ่มเข้ามา โดยสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อเพิ่มเติมหรือไม่ก็ได้ ซึ่งประกันรถยนต์ภาคสมัครใจแต่ละประเภทให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
ประกันรถยนต์ชั้น 1 คือประกันรถที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุดในบรรดาประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ เหมาะสำหรับรถใหม่ หรือผู้ที่ต้องการความคุ้มครองสูงสุด ครอบคลุมทั้งกรณีรถชนแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี รวมถึงเหตุไม่คาดฝัน เช่น ภัยธรรมชาติ หรือรถสูญหาย ซึ่งความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 1 โดยสรุป คือ
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ถือเป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีเบี้ยประกันที่ถูกกว่าชั้น 1 แต่ยังให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมในกรณีสำคัญ เช่น รถชนรถ, รถหาย หรือไฟไหม้ อย่างไรก็ตาม ความคุ้มครองจะไม่ครอบคลุมกรณี “ไม่มีคู่กรณี” เช่น ชนเสา ชนกำแพง หรือลื่นไถลเอง เป็นต้น ซึ่งความคุ้มครองของประกันรถชั้น 2+ โดยสรุป คือ
ประกันรถยนต์ชั้น 3+ เป็นแผนประกันที่มีค่าเบี้ยประกันต่ำที่สุด แต่ยังให้ความคุ้มครองพื้นฐานในกรณี “รถชนรถแบบมีคู่กรณี” จึงเหมาะกับผู้ที่ใช้รถน้อย หรือมีรถอายุเกิน 7 ปี ที่ไม่ต้องการจ่ายเบี้ยสูง ซึ่งความคุ้มครองของประกันรถชั้น 3+ โดยสรุป คือ
หมายเหตุ: ประกันรถยนต์บางบริษัทยังคุ้มครองครอบคลุมตั้งแต่ทรัพย์สินและชีวิตของคู่กรณี และยังรวมไปถึงทรัพย์สิน
Tip : ถ้าน้ำท่วม ขับรถลุยน้ำ น้ำเข้ารถ ประกันรถคุ้มครองไหมในแต่ละชั้น?
แน่นอนว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองกรณีรถน้ำท่วมเป็นมาตรฐาน แต่ในบางแผนของประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็อาจให้ความคุ้มครองกรณีนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันว่ารวมภัยธรรมชาติไว้หรือไม่ ดังนั้น ก่อนซื้อประกันทุกครั้ง ควรตรวจสอบรายละเอียดกรมธรรม์ว่า "น้ำท่วม" รวมอยู่ในความคุ้มครองหรือไม่ และมีเงื่อนไขเพิ่มเติมหรือเปล่า เช่น
การซื้อประกันรถยนต์ไม่ใช่แค่ดูราคาเบี้ยประกันหรือเลือกจากชื่อบริษัทเท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาหลายปัจจัยควบคู่กัน เพื่อให้ได้แผนประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์ ใช้แล้วคุ้มจริง และช่วยป้องกันค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิดในอนาคต ต่อไปนี้คือ 3 เช็กลิสต์สำคัญก่อนตัดสินใจซื้อประกัน คือ
หลายคนมักเริ่มต้นจากคำถามว่า ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่ไหนดี? หรือ ประกันรถยนต์ ที่ไหนดี?
คำตอบที่ดีที่สุดคือ “ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ” เพราะแต่ละบริษัทอาจมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เช่น เบี้ยประกันถูกกว่า บริการเคลมเร็วกว่า หรือเงื่อนไขยืดหยุ่นกว่า การเปรียบเทียบจากบริษัทประกันหลายเจ้าก่อนตัดสินใจซื้อ เช่น ประกันรถยนต์ MSIG, ประกันรถยนต์ไทยไพบูลย์ประกันภัย ฯลฯ จะช่วยให้เห็นภาพรวมและเลือกแผนที่ให้ความคุ้มครองครบในงบประมาณที่เหมาะสม
แม้แผนประกันรถยนต์จะระบุความคุ้มครองหลักไว้ชัดเจน แต่คุณควรเช็กด้วยว่าบริษัทประกันแต่ละแห่งมีบริการหรือสิทธิประโยชน์สุดพิเศษเพิ่มเติมหรือไม่ เช่น
หมายเหตุ : *สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากประกันรถยนต์ MSIG,ประกันรถยนต์ไทยไพบูลย์ประกันภัย , เงื่อนไขและความคุ้มครองเป็นไปตามที่บริษัทผู้รับประกันภัยเป็นผู้กำหนด
ถ้าคุณไม่สะดวกจ่ายเบี้ยประกันก้อนใหญ่ในครั้งเดียว อีกทางเลือกที่ควรพิจารณาคือ การซื้อประกันรถยนต์แบบผ่อนชำระ 0% ซึ่งปัจจุบันมีหลายบริษัทที่ร่วมกับสถาบันการเงินหรือแอปชำระเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคุณเช่น
และสำหรับในกรณีที่เลือกซื้อประกันรถยนต์ MSIG, ประกันรถยนต์ไทยไพบูลย์ประกันภัย สามารถเลือกผ่อนประกันรถยนต์ได้ ทำให้การซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2+ แบบผ่อนจ่ายทำให้คุณวางแผนค่าใช้จ่ายรายเดือนง่ายขึ้น ไม่กระทบงบก้อนใหญ่
ในปี 2568 มีการซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ มากขึ้น เนื่องจากสะดวก รวดเร็ว และสามารถเปรียบเทียบประกันจากหลายบริษัทได้ในที่เดียว นอกจากนี้ ยังมีบริการ ผ่อนประกันรถยนต์ แบบไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งช่วยให้วางแผนค่าใช้จ่ายรายเดือนได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันก้อนใหญ่ ซึ่งถ้าซื้อ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ MSIG และ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ไทยไพบูลย์ประกันภัย มีให้บริการผ่อนประกันรถยนต์ ดังนี้
โดยสามารถซื้อประกันออนไลน์ได้แล้ววันนี้ ผ่านทาง AEON THAI MOBILE Application
*เงื่อนไขและความคุ้มครองเป็นไปตามที่บริษัทผู้รับประกันภัยเป็นผู้กำหนด
*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 22%-25% ต่อปี
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 22%-25% ต่อปี
*รับประกันภัยโดย บริษัท ไทยไพบูลย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน)
*รับประกันภัยโดย บริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
*นายหน้าประกันภัยโดย บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
*ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจนิสัยการขับขี่ของตนเอง และสามารถเลือกประกันรถยนต์ได้อย่างคุ้มค่า คุ้มครองตรงจุด และตอบโจทย์การขับรถยนต์ในระยะยาว
ขอบคุณข้อมูลจาก : สมาคมประกันวินาศภัยไทย
ถ้าคุณเป็นคนรักรถ และชอบบทความสาระความรู้และความบันเทิงแบบนี้ อิออนยังมีบทความอื่น ๆ ที่คุณอาจสนใจ เช่น “ขับรถลุยน้ำหน้าฝนยังไงไม่ให้รถพัง พร้อมเช็กประกันรถยนต์ที่คุ้มครองรถน้ำท่วม” หรือ “ไม่ต้องไปขนส่ง ก็จ่ายภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้ ต่อภาษีรถยนต์ง่ายกว่าที่คิด” และยังมีอีกหลากหลายเรื่องให้ค้นหาได้ที่หน้า สาระน่ารู้ บนเว็บไซต์ AEON ติดตามกันได้เลย