แนะแนววิธีการจัดการ สาระน่ารู้หรือเคล็ดลับดีๆในการใช้บัตรเครดิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงหลายๆเรื่องที่คุณไม่รู้มาก่อน มาอัพเดทกันก่อนใคร ที่นี่ ..
ทุกเรื่องบัตรเครดิตที่คุณควรรู้
หลายคนสงสัยว่าทำไมสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน ทั้งที่มีรายได้ประจำ คำตอบหนึ่งอาจอยู่ที่ "เครดิตบูโร" ยังไม่พร้อม เพราะข้อมูลเครดิตบูโรเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้ให้บริการทางการเงินใช้พิจารณาการสมัครบัตรเครดิต ดังนั้น อยากชวนทุกคนมาทำความเข้าใจว่าเครดิตบูโรคืออะไร เครดิตบูโรมีสถานะอะไรบ้าง พร้อมวิธีเช็กเครดิตบูโรออนไลน์ฟรีด้วยตัวเอง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนสมัครบัตรเครดิตอีกครั้ง!
เครดิตบูโร หรือ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (National Credit Bureau) คือหน่วยงานกลางที่จัดเก็บข้อมูลพฤติกรรมทางการเงินของผู้ขอสินเชื่อจากผู้ให้บริการทางการเงินที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโร
ดังนั้น จะเห็นได้เลยว่า “เครดิตบูโร” ก็เปรียบเสมือน “สมุดพฤติกรรมการเงิน” ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกใช้เป็น “หลักฐาน” แสดงพฤติกรรมทางการเงินในอดีต ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการอนุมัติสินเชื่อในอนาคต
เวลาคุณยื่นสมัครบัตรเครดิตหรือสินเชื่อ ผู้ให้บริการทางการเงินจะดึงข้อมูลเครดิตบูโรไปใช้ประกอบการพิจารณา เพื่อประเมินว่า "คุณมีวินัยทางการเงินแค่ไหน" และ "เสี่ยงต่อการเป็นหนี้เสียหรือไม่" ดังนั้น การเช็กเครดิตบูโรก่อนสมัครบัตรเครดิตหรือสินเชื่อทุกประเภท เลยจำเป็นมาก
และเพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน เครดิตบูโรไม่ได้มีสิทธิ์แบล็คลิสต์ หรือปฏิเสธการกู้สินเชื่อ เพราะหน่วยงานนี้เป็นเพียงแหล่งเก็บข้อมูลเท่านั้น ส่วนการอนุมัติสินเชื่อขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการทางการเงิน ซึ่งจะพิจารณาข้อมูลอื่นร่วมด้วย เช่น รายได้ อาชีพ หลักประกัน หรือความสามารถในการชำระหนี้นั่นเอง
รายงานข้อมูลเครดิต หรือ Credit Report ซึ่งจัดทำขึ้นโดยบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) จากข้อมูลสินเชื่อและประวัติการชำระเงินที่ส่งเข้ามาจากผู้ให้บริการทางการเงินที่เป็นสมาชิก และในรายงานเครดิตบูโรนี้จะระบุภาพรวมการใช้สินเชื่อของคุณ เช่น ยอดค้างชำระ การผ่อนชำระตรงเวลาหรือไม่ รวมถึง “สถานะของบัญชีสินเชื่อ” ที่ช่วยให้ทั้งเจ้าหนี้และคุณเข้าใจว่าภาพรวมทางการเงินอยู่ในระดับไหน
ซึ่งในรายงานข้อมูลเครดิต จะมี “รหัสสถานะเครดิตบูโร” ของแต่ละบัญชีสินเชื่อที่คุณถืออยู่ ซึ่งเป็นตัวเลขแสดงให้เห็นว่าบัญชีนั้นมีสถานะอย่างไร เช่น ปกติ ค้างชำระ อยู่ระหว่างฟ้องร้อง หรือปิดบัญชีแล้ว ฯลฯ ดังนั้น การรู้ความหมายของรหัสเหล่านี้สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้คุณประเมินสถานะทางการเงินของตัวเองได้ก่อนสมัครบัตรเครดิต ซึ่งรหัสเครดิตบูโรแต่ละเลขมีด้วยกันดังนี้
ก่อนจะยื่นเรื่องสมัครบัตรเครดิตออนไลน์ไป สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการตรวจสอบสถานะเครดิตบูโรก่อน เพื่อดูว่าประวัติการชำระหนี้เป็นอย่างไร มีค้างชำระหรือผิดนัดชำระหรือไม่ และในปัจจุบันคุณสามารถเช็กเครดิตบูโรออนไลน์ได้แล้วด้วยตัวคุณเอง ซึ่งมีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน คือ:
แต่ถ้าคุณแค่อยากตรวจสอบสถานะเครดิตแบบ “ภาพรวม” เบื้องต้น เช่น มีบัญชีผิดนัดหรือไม่ ก็สามารถใช้แอป “ทางรัฐ” เช็กเครดิตบูโรออนไลน์ฟรี โดยไม่ต้องจ่ายอะไรเลย ก่อนเริ่มเช็กเครดิตบูโรออนไลน์ฟรีผ่านแอป “ทางรัฐ” คุณจำเป็นต้องยืนยันตัวตนผ่านแอป “ThaiD” (จากกรมการปกครอง) ให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งหากยังไม่เคยใช้ ThaiD ระบบจะมีขั้นตอนแนะนำให้อัตโนมัติ หลังจากยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว ก็สามารถเข้าสู่ระบบในแอป “ทางรัฐ” เพื่อดูข้อมูลเครดิตบูโรแบบภาพรวมได้ทันที ซึ่งมี 10 ขั้นตอนดังนี้:
จะเห็นได้ว่าเพียงไม่กี่นาที คุณก็สามารถเช็กเครดิตบูโรฟรีได้ง่ายๆ ผ่านแอป “ทางรัฐ” แถมข้อมูลยังเชื่อถือได้ และช่วยให้คุณเตรียมตัวไปสมัครบัตรเครดิตได้อย่างมั่นใจมากขึ้นด้วย
หลังจากที่คุณเช็กเครดิตบูโรออนไลน์ฟรีด้วยตัวเองแล้ว ลำดับต่อไปคือการอ่านผลและประเมินสถานะของตัวเองว่า “พร้อมสมัครบัตรเครดิตใหม่แล้วหรือยัง” ซึ่งมีด้วยกัน 2 เหตุการณ์
ถ้าผลออกมาว่าคุณมีประวัติสินเชื่อดีไม่มีค้างชำระ หรือเคยปิดหนี้เรียบร้อยแล้ว เช่น สถานะ 01 หรือ 11 ก็เลือกสมัครบัตรเครดิตออนไลน์ที่เหมาะกับรายได้และไลฟ์สไตล์ของคุณได้เลย เช่น:
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
*ใช้เท่าที่จำเป็น และชำระคืนได้เต็มตามจำนวนที่กำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16%
เมื่อเช็กเครดิตบูโรออนไลน์พบว่าเครดิตของเรายังมีปัญหา เช่น ค้างชำระนานเกิน 90 วัน หรือขึ้นสถานะ 20 ขึ้นไป อย่าเพิ่งรีบสมัครบัตรเครดิตแต่แนะนำให้ใช้เวลาฟื้นฟูเครดิตของคุณให้กลับมาดูดีก่อน ดังนี้:
หลังจากที่ปรับเครดิตให้ดีขึ้นแล้ว แนะนำว่าควรรอสักประมาณ 3-6 เดือน ก่อนที่จะลองยื่นสมัครบัตรใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ผู้ให้บริการทางการเงินได้เห็นว่าพฤติกรรมการเงินเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นจริงๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติบัตรเครดิตได้มากกว่าเดิม
การเช็กเครดิตบูโรออนไลน์ฟรีคือจุดเริ่มต้นสำคัญก่อนยื่นสมัครบัตรเครดิต เพราะช่วยให้รู้สถานะทางการเงินของตัวเองชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะพร้อมสมัครเลย หรือควรรอปรับเครดิตก่อน ทุกคนก็วางแผนขอสินเชื่อได้มั่นใจกว่าเดิม!
ขอบคุณข้อมูลจาก : คลินิกแก้หนี้, เครดิตบูโร, บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ, ncb