X

AEON THAI MOBILE
AEON Thana Sinsap (Thailand) PLC FREE -On The App Store

Open

AEON Smart money

Catch up with our update information and provided tips to help you getting the maximize benefit from using of your credit card.

ชวนเข้าใจ Co-Payment ประกันสุขภาพร่วมจ่ายปี 2568



เข้าใจระบบ Co-Payment ในประกันสุขภาพยุคใหม่ เริ่มใช้จริงปี 2568 พร้อมเทคนิคเลือกประกันให้คุ้ม และสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าอิออน ทั้งผ่อน 0% และรับเครดิตเงินคืนง่าย ๆ ด้วยบัตรเครดิต อิออน เวลล์เนส แพลทินัม

หัวข้อที่น่าสนใจ

ทุกวันนี้ค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายคนจึงมองหาประกันสุขภาพเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายยามเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้เปิดทางให้บริษัทประกันภัยสามารถออกแบบกำหนดเงื่อนไข Co-Payment ได้ ซึ่งอาจทำให้หลายคนเกิดความกังวลว่า การซื้อประกันสุขภาพจะยังคุ้มค่าเหมือนเดิมหรือไม่ บทความนี้จะพาคุณมาไขข้อข้องใจว่า “ประกันสุขภาพร่วมจ่าย” คืออะไร ควรรู้อะไรบ้าง และต้องเลือกซื้ออย่างไรให้ได้ความคุ้มค่า

What-is-co-payment-health-insurance.jpg

Co-Payment คืออะไร ชวนทำความเข้าใจประกันสุขภาพระบบร่วมจ่ายตามมาตรฐาน คปภ.

Co-Payment คือระบบประกันสุขภาพแบบใหม่ ที่เวลาคุณไปรักษาพยาบาล จะต้องจ่ายเงินค่ารักษาบางส่วนด้วยตัวเองตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ แทนที่จะให้บริษัทประกันออกเงินค่ารักษาให้ทั้งหมดเหมือนแต่ก่อน

นโยบายนี้เป็นมาตรฐานใหม่จากสำนักงานสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป สำหรับแบบประกันสุขภาพใหม่ที่ออกโดยบริษัทประกันต่างๆ ซึ่งจะต้องระบุเงื่อนไขอย่างชัดเจนให้ผู้ซื้อทราบล่วงหน้า

ทำไมต้องเปลี่ยนมาใช้ Co-Payment? แล้วใครได้ประโยชน์?

  • ควบคุมค่าใช้จ่ายในระบบประกันสุขภาพ : เพราะค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ถ้ายังคงให้บริษัทประกันรับภาระทั้งหมด ก็อาจทำให้เบี้ยประกันพุ่งสูงตามไปด้วย การให้ผู้เอาประกันช่วยจ่ายบางส่วนจึงเป็นทางออกที่ช่วยบาลานซ์ค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น
  • ลดการใช้สิทธิ์เคลมประกันแบบไม่จำเป็น ทำให้ใช้สิทธิ์อย่างมีเหตุผลมากขึ้น : การร่วมจ่ายจะทำให้ผู้เอาประกันใช้สิทธิ์อย่างมีเหตุผลมากขึ้น เช่น ไม่ไปเบิกค่ารักษาเล็กน้อยเกินความจำเป็น (เช่น เป็นหวัดเล็กๆ น้อยๆ หรือปวดหัวธรรมดาแล้วไปขอแอดมิทเป็นผู้ป่วยใน) ส่งผลให้มีแนวโน้มเลือกใช้สิทธิ์ในกรณีที่จำเป็นจริงๆ ซึ่งช่วยลดภาระการเบิกจ่ายโดยรวมของระบบ
  • ช่วยรักษาเบี้ยประกันให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม สามารถจับต้องได้ : ถ้าไม่มีการควบคุมการใช้สิทธิ์ อาจส่งผลให้เบี้ยประกันสุขภาพในอนาคตแพงจนหลายคนเอื้อมไม่ถึง ระบบ Co-Payment จะช่วยให้เบี้ยยังอยู่ในราคาที่เหมาะสมกับความคุ้มครองที่ได้รับ
  • สร้างความเป็นธรรมในการใช้สิทธิ์ประกัน : คนที่ถือกรมธรรม์จะได้ไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายของคนที่ใช้สิทธิ์แบบไม่เหมาะสม ทำให้การใช้สิทธิ์ประกันอยู่ภายใต้ความเหมาะสม

ใครบ้างที่ได้รับผลกระทบจากระบบประกันสุขภาพแบบ Co-Payment?

เงื่อนไข Co-Payment นี้จะเริ่มใช้กับผู้เอาประกันต่อไปนี้

  • ผู้ที่ซื้อประกันสุขภาพฉบับใหม่ ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป
  • ผู้ที่ถือประกันสุขภาพเดิม แต่มีการต่ออายุกรมธรรม์ล่าช้า เกินระยะเวลาผ่อนผัน หรือมีการ เปลี่ยนแปลงแผนความคุ้มครอง หรือซื้อสัญญาเพิ่มเติม หลังวันที่ 20 มีนาคม 2568

ข่าวดีคือ ถ้าคุณถือกรมธรรม์เดิมอยู่ก่อนวันที่ 20 มีนาคม 2568 และรักษาสถานะกรมธรรม์ต่อเนื่องโดยไม่ขาดช่วง คุณยังสามารถได้รับความคุ้มครองแบบเดิม และไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบ Co-Payment เพราะ Co-Payment จะไม่ถูกบังคับใช้ย้อนหลังกับสัญญาเดิมที่ยังมีผลบังคับอย่างต่อเนื่อง

Co-payment-calculation-frequent-claims.jpg

เกณฑ์การพิจารณาเข้าเงื่อนไข Co-Payment (ตามแนวทาง คปภ.)

ตามแนวทางของสำนักงาน คปภ. บริษัทประกันภัยจะพิจารณาเงื่อนไข Co-Payment จากประวัติการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในฐานะผู้ป่วยใน (IPD) ในแต่ละรอบปีกรมธรรม์ เพื่อประเมินว่าในปีกรมธรรม์ถัดไปผู้เอาประกันจะต้องร่วมจ่าย (Co-Payment) ด้วยหรือไม่ ถือเป็นหนึ่งในวิธีคิด Co-Payment ที่ถูกกำหนดไว้โดยเกณฑ์ที่ใช้พิจารณานี้อาจแตกต่างกันไปตามนโยบายของแต่ละบริษัท และต้องระบุไว้ในกรมธรรม์อย่างชัดเจน พร้อมได้รับความเห็นชอบจาก คปภ. ก่อนนำเสนอขายแก่ประชาชน

ตัวอย่าง 3 กรณีที่เข้าเงื่อนไขประกันสุขภาพ Co-Payment

  • กรณีที่ 1 : การเคลมโรคเจ็บป่วยเล็กน้อย (Simple Diseases) บ่อยครั้ง

หากมีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนกรณีผู้ป่วยใน (IPD) ตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไปภายในรอบปีกรมธรรม์นั้น และ มียอดเคลมค่าสินไหมทดแทนรวมตั้งแต่ 200% ขึ้นไป ของค่าเบี้ยประกันสุขภาพในปีนั้น ผู้เอาประกันถูกกำหนดให้ต้องร่วมจ่าย 30% ของค่ารักษาพยาบาลในปีกรมธรรม์ถัดไป

  • กรณีที่ 2 : การเคลมโรคทั่วไป (ไม่รวมโรคร้ายแรง/ผ่าตัดใหญ่) มูลค่าสูง

มีการเคลมผู้ป่วยใน (IPD) ตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไปภายในรอบปีกรมธรรม์นั้น และมียอดเคลมค่าสินไหมทดแทนรวม ตั้งแต่ 400% ขึ้นไปของค่าเบี้ยประกันสุขภาพในปีนั้น ผู้เอาประกันอาจถูกกำหนดให้ต้องร่วมจ่าย 30% ของค่ารักษาพยาบาลในปีกรมธรรม์ถัดไป

  • กรณีที่ 3 : เข้าเกณฑ์ทั้งกรณีที่ 1 และ 2

หากเข้าเกณฑ์ทั้งสองกรณีข้างต้นร่วมกัน ผู้เอาประกันอาจถูกกำหนดต้องร่วมจ่าย 50% ของค่ารักษาพยาบาลในปีกรมธรรม์ถัดไป

หมายเหตุ : ตัวอย่างข้างต้นเป็นแนวทางการกำหนดเงื่อนไข Co-Payment ซึ่งเงื่อนไข รวมทั้งอัตราส่วนการร่วมจ่ายจะต้องระบุไว้อย่างชัดเจนในข้อกำหนดและเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยแต่ละฉบับ และต้องได้รับความเห็นชอบจาก คปภ.ก่อนนำเสนอขาย อัตราการร่วมจ่ายอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละแผนความคุ้มครอง

ประกันสุขภาพร่วมจ่าย Co-Payment เป็นเงื่อนไขถาวรหรือไม่?

ไม่ใช่เงื่อนไขถาวร โดยทั่วไปเงื่อนไข Co-Payment ของประกันสุขภาพร่วมจ่ายนี้ จะมีการประเมินใหม่ทุกปีกรมธรรม์ ณ ​วันครบรอบปีกรรมธรรม์นั้นๆ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแนวทางที่บริษัทประกันภัยแต่ละแห่งกำหนดไว้ในกรมธรรม์ และต้องได้รับความเห็นชอบจาก คปภ. ด้วย

  • หากเข้าเงื่อนไข ในปีถัดไปจะต้องร่วมจ่ายตามอัตราที่กำหนด
  • หากปีที่ต้องร่วมจ่าย มีประวัติการเคลมน้อยลงหรือไม่เข้าเกณฑ์อีก: ในรอบปีกรมธรรม์ถัดไป ความคุ้มครองจะ กลับมาเต็ม 100% ตามปกติ (ไม่มี Co-Payment)
  • หากในรอบปีกรมธรรม์ที่ผ่านมามีการเรียกร้องค่าสินไหมในระดับสูง จนเข้าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย ในปีกรมธรรม์ถัดไป ผู้เอาประกันจะต้องร่วมจ่ายตามอัตราที่กำหนด
  • หากปีที่มีการร่วมจ่าย ผู้เอาประกันมีประวัติการเคลมน้อยลงหรือไม่เข้าเกณฑ์อีกในปีกรมธรรม์ถัดไป อาจได้รับความคุ้มครองกลับมาเต็ม 100% (ไม่มี Co-Payment) ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

ดังนั้น ระบบนี้เปิดโอกาสให้ผู้เอาประกันภัยสามารถกลับสู่ความคุ้มครองเต็มจำนวนตามเดิมได้หากมีการใช้สิทธิในการเคลมอย่างเหมาะสมในปีที่ผ่านมา (ปีที่มีการร่วมจ่าย)

ข้อดีและข้อควรพิจารณาของประกันสุขภาพระบบ Co-Payment

แม้ระบบประกันสุขภาพร่วมจ่าย หรือ Co-Payment จะเป็นแนวทางใหม่ที่ช่วยให้การใช้สิทธิรักษาพยาบาลมีความสมดุลมากขึ้น แต่ก่อนจะตัดสินใจทำแผนประกันสุขภาพในปี 2568 ตามแนวทางมาตรฐานของ คปภ. ก็ควรทำความเข้าใจทั้งข้อดีและข้อควรพิจารณา เพื่อให้มั่นใจว่าแผนความคุ้มครองที่เลือกนั้นเหมาะสมกับพฤติกรรมเกี่ยวกับสุขภาพและการใช้บริการทางการแพทย์ของคุณอย่างแท้จริง

ข้อดีของประกันสุขภาพระบบ Co-Payment

  • เบี้ยประกันสมเหตุสมผล : อาจช่วยให้เบี้ยประกันโดยรวมไม่ปรับขึ้นเร็วเกินไป หรือมีทางเลือกแผนที่มีเบี้ยถูกลงในกรณีร่วมจ่าย
  • ส่งเสริมการใช้บริการทางการแพทย์ตามที่จำเป็น : กระตุ้นให้ผู้เอาประกันพิจารณาความจำเป็นก่อนเข้ารับบริการทางการแพทย์ โดยเฉพาะการเข้ารักษาแบบผู้ป่วยใน (IPD)
  • เสริมความยั่งยืนของระบบประกันสุขภาพ : ช่วยให้บริษัทประกันบริหารความเสี่ยงและจัดการทรัพยากรได้ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในระยะยาว

ข้อควรพิจารณาของประกันสุขภาพระบบ Co-Payment

  • ภาระค่าใช้จ่ายส่วนแรก : ผู้เอาประกันต้องเตรียมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งเมื่อมีการเคลม
  • ผลกระทบต่อผู้ที่มีการป่วยบ่อย : ผู้ที่เจ็บป่วยบ่อยหรือมีโรคประจำตัวอาจต้องร่วมจ่ายหลายครั้งภายในปีกรมธรรม์ ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
  • ความจำเป็นในการวางแผนการเงินเพิ่มเติม : ผู้เอาประกันต้องวางแผนรองรับค่าใช้จ่ายในการรักษาในส่วนนี้เพิ่มเติม

Minor-illness-oic-co-payment-policy.jpg

กลุ่มโรคเจ็บป่วยเล็กน้อย (Simple Diseases) ที่อาจนำมาพิจารณาในระบบ Co-Payment

ในระบบประกันสุขภาพแบบร่วมจ่าย หรือ Co-Payment คือ บริษัทประกันภัยจะใช้วิธีคิด Co-Payment โดยประเมินพฤติกรรมการเคลมของผู้เอาประกันในแต่ละรอบปีกรมธรรม์ โดยเฉพาะในกรณีที่มีการเคลมค่ารักษาในฐานะผู้ป่วยใน (IPD) บ่อยครั้งจากโรคหรืออาการที่โดยทั่วไปสามารถรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD) ได

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่อาจนำมาพิจารณาคือ กลุ่มอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย (Simple Diseases) ซึ่งตามแนวทางของประกันสุขภาพมาตรฐาน (Standard Health) ของ คปภ. นั้น คืออาการเจ็บป่วยไม่รุนแรง ไม่ซับซ้อน และโดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล โดยแนวทางตัวอย่างที่บางบริษัทประกันใช้ อาจรวมถึง:

  • การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เช่น หวัด เจ็บคอ
  • ไข้หวัดใหญ่
  • ท้องเสีย ลำไส้อักเสบจากอาหารเป็นพิษหรือติดเชื้อ
  • ไข้ไม่ทราบสาเหตุที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน
  • อาการแพ้ เช่น ผื่น น้ำมูกไหล
  • โรคกระเพาะอาหารอักเสบหรือ กรดไหลย้อน
  • อาการเวียนศีรษะหรือบ้านหมุน
  • ปวดศีรษะจากไมเกรนหรือความเครียด
  • กล้ามเนื้ออักเสบหรือปวดเมื่อยจากการใช้งาน

โดยตามแนวทางตัวอย่างของ คปภ. ยังมีการพิจารณาตามช่วงอายุ เช่น :

  • เด็กอายุ 3-5 ปี : อาจพิจารณาการเคลมเฉพาะ 6 โรคแรก
  • อายุ 6 ปีขึ้นไป : อาจพิจารณาการเคลมทั้ง 9 กลุ่มโรค

หมายเหตุ : รายชื่อโรคและเงื่อนไขอายุเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นเท่านั้น เงื่อนไขที่แท้จริงและรายละเอียดจะระบุในกรมธรรม์ของแต่ละฉบับและต้องได้รับความเห็นชอบจาก คปภ. ก่อนเสนอขาย

โรคร้ายแรงและการผ่าตัดใหญ่ที่ไม่ถูกนับจำนวนครั้ง เพื่อพิจารณาว่าเข้าเงื่อนไข Co-Payment

บริษัทประกันจะพิจารณาจำนวนครั้งของการเรียกร้องสินไหมเป็นหนึ่งในปัจจัย เพื่อกำหนดว่าผู้เอาประกันต้องร่วมจ่าย (Co-Payment) ในปีกรมธรรม์ถัดไปหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การเคลมค่ารักษาพยาบาลจากกรณีโรคร้ายแรง การผ่าตัดใหญ่ หรือภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง จะไม่ถูกนับเป็นหนึ่งจำนวนครั้ง สำหรับการพิจารณาว่าเข้าเงื่อนไขร่วมจ่าย (Co-Payment) ในปีกรมธรรม์ถัดไป เช่น

  • โรคมะเร็ง, เนื้องอก
  • โรคหัวใจ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตาย, ผ่าตัดบายพาส, ใส่ขดลวด
  • โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
  • ไตวายเรื้อรัง หรือตับวาย
  • การปลูกถ่ายอวัยวะหรือไขกระดูก
  • ภาวะโคม่า สมองตาย
  • การบาดเจ็บรุนแรงจากอุบัติเหตุ เช่น ศีรษะ, อวัยวะภายใน
  • การผ่าตัดใหญ่ที่ซับซ้อน
  • โรคหรือภาวะร้ายแรงอื่นๆ ตามที่ระบุในเงื่อนไขกรมธรรม์

ข้อควรทราบที่สำคัญที่สุด

แม้ว่าการรักษาโรคร้ายแรงหรือการผ่าตัดใหญ่จะไม่ถูกนับรวมเป็น "จำนวนครั้ง" ในการพิจารณาเริ่มต้นว่าเข้าระบบ Co-Payment แต่หากผู้เอาประกันเข้าเกณฑ์ร่วมจ่าย (Co-Payment) จากการเคลมประกันสุขภาพบ่อยจากโรคทั่วไปในปีที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลให้ในปีถัดไปผู้เอาประกันจะต้องร่วมจ่ายตามอัตราที่ระบุในกรมธรรม์ ไม่ว่าจะรักษาโรคใดก็ตาม ซึ่งรวมถึงโรคร้ายแรง

นั่นหมายความว่า หากคุณอยู่ในสถานะที่ต้องร่วมจ่ายในปีนั้นๆ ไม่ว่าจะเข้ารับการรักษาในกรณี โรคเจ็บป่วยเล็กน้อย โรคทั่วไป หรือแม้แต่โรคร้ายแรง ก็จะยังต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามการร่วมจ่าย (Co-Payment) ที่ได้มีการกำหนดไว้ (เช่น ร่วมจ่าย 30% หรือ 50%) จนกว่าจะถึงรอบการประเมินใหม่ก่อนเข้าสู่ปีกรมธรรม์ถัดไป

Best-online-health-insurance-installment.jpg

ซื้อประกันสุขภาพออนไลน์ที่ไหนดี ถึงจะเกิดความคุ้มค่าในปี 2568

นอกเหนือจากการทำความเข้าใจระบบ Co-Payment แล้ว การเลือกช่องทางการซื้อประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มค่าเพิ่มเติมก็เป็นอีกปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณา เพราะในยุคนี้การซื้อประกันสุขภาพออนไลน์ กลายเป็นทางเลือกที่ทั้งสะดวกและคุ้มค่ามากขึ้น เนื่องจากหลายแพลตฟอร์มมีโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษเพิ่มเติม เช่น

  • ส่วนลดเครดิตเงินคืนเมื่อซื้อประกันสุขภาพ
  • ผ่อนชำระค่าเบี้ยประกันสุขภาพได้

โดยหนึ่งในตัวเลือกของผู้เสนอขายประกันสุขภาพออนไลน์ที่น่าสนใจคือ “อิออน” ที่ช่วยให้คุณซื้อประกันสุขภาพพร้อมทางเลือกในการผ่อนชำระเบี้ยประกันแบบ 0% และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ช่วยแบ่งภาระค่าใช้จ่าย ซึ่ง 2 วิธีในการซื้อประกันสุขภาพกับอิออน คือ

ซื้อประกันสุขภาพออนไลน์ รับสิทธิ์ผ่อนเบี้ยประกัน 0%

  • รับสิทธิ์ผ่อนชำระค่าเบี้ยประกันภัย ดอกเบี้ย 0% นาน 3, 6 และ 10 เดือน สำหรับบริการ“อิออน แฮปปี้ เพย์” เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป และสำหรับบริการ “อิออน แฮปปี้ แพลน” เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป
  • เริ่มต้นผ่อนชำระต่อเดือน 300 บาทขึ้นไป/เดือน นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อมียอดผ่อนชำระค่าเบี้ยประกันภัย ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป ด้วยบริการ “อิออน แฮปปี้ เพย์” หรือเริ่มต้นผ่อนชำระ 500 บาทขึ้นไป/เดือน นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อมียอดผ่อนชำระสินค้าหรือบริการตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป ด้วยบริการ “อิออน แฮปปี้ แพลน”

*เงื่อนไขเป็นไปที่บริษัทฯ กำหนด

*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี สำหรับบัตรเครดิต

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 22% - 25% ต่อปี สำหรับสินเชื่อ

*นายหน้าประกันภัยโดย บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)

*ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

ซื้อประกันสุขภาพออนไลน์ด้วยบัตรเครดิต อิออน Wellness

  • รับเครดิตเงินคืน 5% เมื่อมียอดใช้จ่ายที่โรงพยาบาลทั่วประเทศภายใต้ MCC Code 8062*
  • รับเครดิตเงินคืน 3% เมื่อมียอดใช้จ่ายที่ร้านขายยาทั่วประเทศภายใต้ MCC Code 5912*
  • รับเครดิตเงินคืน 1% เมื่อมียอดชำระค่าเบี้ยประกันภายใต้ MCC Code 5960, 6300 และ 9223 (ยกเว้นประกันประเภท Unit Linked)*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

*ใช้เท่าที่จำเป็น และชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

*นายหน้าประกันภัยโดย บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)

*ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

ดังนั้น ไม่ว่าจะเลือก ผ่อนประกัน 0% ผ่าน อิออน แฮปปี้ เพย์ หรือ อิออน แฮปปี้ แพลน* หรือใช้ บัตรเครดิตอิออน Wellness* เพื่อรับเครดิตเงินคืน ก็ช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองสุขภาพ รวมทั้งลดภาระค่าใช้จ่าย และเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินในการวางแผนสุขภาพของคุณ

เข้าใจ Co-Payment ก่อนตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพปี 2568

ประกันสุขภาพแบบ Co-Payment คือรูปแบบความคุ้มครองใหม่ที่เริ่มมีผลใช้กับกรมธรรม์ที่เข้าเงื่อนไขที่มีผลในปี 2568 เป็นต้นไป ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน คปภ. หลักการสำคัญของระบบนี้ คือผู้เอาประกันจะต้องร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลบางส่วนในแต่ละครั้งที่มีการเคลม ซึ่งแม้จะช่วยลดค่าเบี้ยประกัน แต่ก็อาจเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในยามเจ็บป่วยโดยเฉพาะในกรณีที่มีการเคลมบ่อย ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกแผนประกันสุขภาพปี 2568 ควรพิจารณาทั้ง เงื่อนไขการร่วมจ่าย (Co-Payment) ขอบเขตความคุ้มครองที่ตอบโจทย์สุขภาพของคุณ การเลือกช่องทางการซื้อที่ได้ความคุ้มค่าเพิ่มเติม เช่น ซื้อประกันสุขภาพออนไลน์ที่มีสิทธิ์ผ่อนชำระค่าเบี้ยประกัน 0% ผ่านบัตรเครดิตหรือผู้ให้บริการทางการเงิน ซึ่งการวางแผนทั้งด้านความคุ้มครองและการเงินควบคู่กัน จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากประกันสุขภาพที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความพร้อมด้านการเงินของคุณ

หากคุณชอบบทความสาระความรู้และความบันเทิงด้านการเงินแบบนี้ อิออนยังมีบทความอื่น ๆ ที่คุณอาจสนใจ เช่น “ซื้อประกันลดหย่อนภาษี ทั้งประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ลดหย่อนได้เท่าไหร่บ้าง” หรือ “อยากมีประกันชีวิต เลือกยังไงให้โดนใจ แบบไหนที่คุ้มค่า by บัตรเครดิต AEON Wellness Platinum” และยังมีอีกหลากหลายเรื่องให้ค้นหาได้ที่หน้า สาระน่ารู้ บนเว็บไซต์ AEON


Back to list

Other Tipis & Tricks

ชวนเข้าใจ Co-Payment ประกันสุขภาพร่วมจ่ายปี 2568

ไม่ต้องไปขนส่ง ก็จ่ายภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้ ต่อภาษีรถยนต์ง่ายกว่าที่คิด

เงินเดือน 15,000 สมัครบัตรเครดิตยังไง ให้ตรงไลฟ์สไตล์

ขับรถลุยน้ำหน้าฝนยังไงไม่ให้รถพัง พร้อมเช็กประกันรถยนต์ที่คุ้มครองรถน้ำท่วม

รู้จักนิสัยทางการเงินของคุณผ่าน MBTI! แต่ละ Type จัดการเงินยังไง?

วางแผนอยาก เรียนต่อ ป.โท ควรเริ่มต้นเก็บเงินยังไงดี?

Personal Color คืออะไร? เช็กสีที่ใช่ก่อนเลือกเมคอัพ พร้อมบัตรเครดิตสายบิวตี้ที่คุณต้องมี

ดาวน์โหลดฟรี! 4 แอปการเงินที่ต้องมีติดเครื่องเอาไว้

รวมอาชีพเสริมยุคใหม่ 2025 เริ่มไว ทำได้ที่บ้าน ไม่ต้องลงทุนเยอะ!

รีไฟแนนซ์รถที่ยังผ่อนไม่หมดได้ไหม? เคลียร์ชัด พร้อมสรุปข้อดี

15 Prompt เปลี่ยนชีวิตไว้ถาม ChatGPT เพื่อที่จะได้วางแผนการเงินในปีนี้ให้เพอร์เฟกต์ที่สุด ฉบับปี 2568

บอกต่อ 5 ไอเทมตัวช่วย แก้ "ออฟฟิศซินโดรม" ที่คนทำงานต้องมี!

เที่ยวเซี่ยงไฮ้ไม่มีหลง! ใช้ Gaode Map vs Baidu Maps อันไหนเวิร์กสุด?

คู่มือชาวออฟฟิศ ใช้แอปสั่งอาหารเดลิเวอรี่ยังไงให้คุ้มทุกมื้อ

สุขภาพดีเกินคาด! 5 พลังลับจากการกินมัทฉะทุกวัน

สมัคร บัตรเครดิตใบแรก ผ่านฉลุย แค่เตรียมทุกอย่างให้พร้อม!

5 เคล็ดลับทำสเตทเม้นท์ให้สวย พร้อมยื่นกู้สินเชื่อส่วนบุคคล

หลับ 8 ชั่วโมงแต่ง่วง มารู้จัก Sleep Test ทางออกของคนนอนไม่พอ

5 เหตุผล ทำไมสายเดินทางต้องมีบัตรเครดิตสะสมไมล์ติดตัว

4 เรื่องต้องรู้! ยื่นภาษีออนไลน์ 2568 ให้ถูกต้อง ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด

สรุปเรื่องเครดิตบูโร และแบล็กลิสต์ที่หลายคนเข้าใจผิด!

5 คำถามที่มักถูกสงสัยสำหรับสินเชื่อรถแลกเงิน

ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตคืออะไร? ไม่เสียได้มั้ย? ตอบทุกคำถามที่คุณอยากรู้!

เฉลยให้! จ่ายค่าไฟผ่านบัตรเครดิต คุ้มยังไง?

5 วิธีเก็บเงินเคล็ดลับจิตวิทยาการเงินแบบง่ายๆ เปลี่ยนวิธีคิดก็พิชิตเงินเก็บในปี 2025 ได้แล้ว

ฟรีแลนซ์ / อาชีพอิสระ ต้องอ่าน สมัครบัตรเครดิตยังไงให้ผ่าน พร้อมป้ายยาบัตรต้องโดน 2025

สินเชื่อ คืออะไร ทำความรู้จักกับสินเชื่อแบบต่างๆ ก่อนตัดสินใจกู้เงิน

ตรุษจีนนี้ ไหว้เจ้ายังไงให้ปัง! รวมเคล็ดลับและของไหว้เจ้ามงคล

มาส์กหน้า 7 วัน 7 แผ่น พร้อมดีลพิเศษจาก AEON ที่ EVEANDBOY

ซื้อประกันลดหย่อนภาษี ทั้งประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ลดหย่อนได้เท่าไหร่บ้าง

เคล็ดลับเลือกบัตรเครดิตใบแรก เลือกยังไงดี

อยากมีประกันชีวิต เลือกยังไงให้โดนใจ แบบไหนที่คุ้มค่า by บัตรเครดิต AEON Wellness Platinum

แพ็คเก็จตรวจสุขภาพตามวัย ควรตรวจอะไรบ้าง

เปิดตำราสายมูปี 2568 เลือกสีกระเป๋าสตางค์ตามวันเกิดให้ถูกโฉลก

แก้ดวงปีชง 2568 พร้อมวิธีและสถานที่แก้ชง ไปกับ บัตรเครดิตอิออน แรบบิท แพลทินัม

เช็กให้ชัวร์! 5 มะเร็งพบบ่อยในไทย แนะนำประกันมะเร็ง มีไว้อุ่นใจกว่า

อิออนชวนเพื่อน ๆ บินลัดฟ้า เที่ยวแบบสายมู ปังทุกด้าน ขอพรการเงิน การงาน ความรัก

บัตรเครดิตคืออะไร มีกี่แบบ ทำความเข้าใจก่อนสมัครบัตรเครดิต

ที่เที่ยวยุโรป 7 ตลาดคริสต์มาส เที่ยวช่วงปีใหม่ ที่ต้องไปสักครั้งในชีวิต

เที่ยววันเด็กกับบัตรเครดิตอิออน ที่สวนสนุกสุดมันส์ที่คุณห้ามพลาด

ลดหย่อนภาษี 2568 กับ ช้อปดีมีคืน และ Easy E-Reciept ทำไง อิออนมีคำตอบ

รู้ทันออฟฟิศซินโดรม ภัยเงียบของชาวออฟฟิศ

ก่อน 30 ต้องรู้ 8 เคล็ดลับวางแผนการเงิน ให้เครดิตดี ชีวิตมั่นคง

วิธีเพิ่มวงเงินบัตรเครดิต เปลี่ยนวิธีใช้บัตรเครดิตยังไง ให้เครดิตปัง ! ไม่พลาด แม้เป็นมือใหม่

"อิออน ชวนชิม 10 ร้านอร่อยย่านบรรทัดทอง และวิธีเดินทาง ด้วยบัตรเครดิต AEON RABBIT PLATINUM"

อัพเดทใหม่ล่าสุด สิทธิประกันสังคม 2567

อยากสมัครบัตรเครดิต แต่เครดิตไม่ดี เริ่มต้นใหม่ได้ ด้วยการเข้าใจ credit score

ลอยกระทงกับเพื่อน ไม่เหงาเพราะมีบัตรเครดิต AEON M Gen VISA

ราคาทองขึ้น อยากเริ่มต้นลงทุน ต้องรู้ 7 ข้อนี้

สินเชื่อส่วนบุคคล รับเงินก้อน พรัอมใช้ ผ่าน AEON THAI MOBILE APPLICATION

ฉุกเฉินร้อนเงิน ต้องการเงินก้อน ไม่รู้จะยืมใคร ไว้ใจ AEON Digital YourCash

4 กลโกงฟิชชิ่งหลอกขอข้อมูลส่วนตัว ที่คุณต้องระวัง!

ประชาสัมพันธ์โครงการคลินิกแก้หนี้

ผ่อนโทรศัพท์มือถือสบาย ด้วยดิจิทัล ยัวร์แคช !

ตรวจสอบยอดชำระง่ายๆ ผ่าน AEON LINE

ขั้นตอนวงเงินบัตรเหลือเท่าไหร่ วงเงินเหลือพอกดเงินสดได้หรือไม่ ? เช็คง่ายๆผ่าน AEON LINE

รู้ไว้ ก่อนใช้บัตรกดเงินสด

More convenient and safety via OTP system

The environmentally conscious with E-Statement service

Credit cards are not in vain

Tips for AEON Online Member

Warning : Fraudulent E-mails "You are MasterCard's E-Lotto Winner"

Using AEON Cards - Shopping (Domestic)

Using AEON Cards - Shopping (Abroad)

Using AEON Cards - Shopping (Online)

Using AEON Cards - Cashing / Advanced Cash Withdrawal

Using AEON Cards - Using your Card Securely